ถ้าหากว่าย้อนกลับไปในตอนยุค 80 ยุคที่ผู้ชายหน้าตาดีหายากมากกว่างมเข็มในมหาสมุทร ยุคที่ยังไม่มีผู้ใดรู้จักกับคำว่าทำหน้า

ผู้ชายหน้าตาดีในยุคนั้น ก็เลยดีมาแต่กำเนิด ดีด้วยเนื้อแท้ของหน้าตาตนเอง และหากจะพูดถึงพระเอกที่หลายคนยกเป็นขวัญใจ

คงจะไม่พ้นชื่อของ ‘เบน อิศรางกูร’หรือ ‘เบน อิศรางกูร ณ อยุธยา’ อดีตพระเอกลูกครึ่งที่ยุค ที่ในตอนนั้น เป็นชายหนุ่มผู้เรียนนอก

ที่กำลังเล่าเรียนอยู่ที่อเมริกา ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาแบบลูกครึ่งที่เริ่มเป็นพิมพ์นิยมของชายหนุ่มหล่อในสมัย 80-90

‘เบน อิศรางกูร’ มีชื่อแค่เพียงข้ามคืนเมื่อมาถ่ายแบบลงปกให้กับนิตยสาร ‘ดิฉัน’ เป็นครั้งแรกในสมัยที่ ‘คุณชุลิตา อารีย์พิพัฒน์กุล’

ยังเป็นบรรณาธิการของนิตยสารฉบับนี้ รวมถึงความหล่อของ ‘เบน อิศรางกูร’ ไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงการเป็นนายแบบสำหรับนิตยสารเท่านั้น

แต่ได้ยังต่อยอดด้วยการก้าวเข้ามาเป็นพระเอกหนังไทยตามสูตรสำเร็จของคนรูปหล่อ โดย ‘ม.จ.ทิพยฉัตร ฉัตรชัย’

เจ้าพ่อผู้กำกับหนังรักของประเทศไทยในยุคนั้น ‘เบน อิศรางกูร’ เปิดฉากการแสดงหนังเป็นครั้งแรก ด้วยการจับคู่กับ ‘ใหม่ สิริวิมล เจริญปุระ’

ในหนังเรื่อง ‘รักนี้เราจอง’ เกิดเรื่องแรกในปี 2527 แล้วก็ ‘หัวใจที่ขาดรัก’ ในปี 2529 แล้วก็ได้ไปศึกษาต่อที่อเมริกา

ซึ่งตรงเวลาอีกหลายปีกว่าจะกลับมาแสดงหนังอีกครั้งในปี 2538 รวมทั้งการแสดงละครอีกหลายเรื่องในฐานะพระเอก

อีกทั้งช่อง 3 และก็ช่อง 7 รวมทั้งการเป็นศิลปินเพลงชุด ‘ไม่ งั้น งั้น’ ใช้ชื่อ ‘เบน ประชา อิศรางกูร ณ อยุธยา’

ทำงานในวงการพร้อมๆกันกับการทำงานในตำแหน่งวิศวกรระบบของ ‘ไอบีเอ็ม’ ก่อนจะ ‘เบน อิศรางกูร’ จะเริ่มหายไปจากวงการบันเทิง

รวมทั้งกลับไปเป็นวิศวกรที่อเมริกา จากความหล่อเหลาของเขานั้นก็นับว่าเป็นนักแสดงอีกท่านหนึ่ง ยังเป็นที่จำของผู้ชมทางบ้านมาจนกระทั่งในทุกวันนี้

แม้ว่าสี่สิบกว่าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งเอาไว้แต่อดีตและความจำว่าครั้งหนึ่งเมืองไทยเราเคยมีขวัญใจแห่งยุค

ที่หล่อ เก่ง ครบเครื่อง รวมถึงความสามารถรอบด้าน จนกระทั่งชนะใจแฟนละครทั่วประเทศที่ชื่อ ‘เบน อิศรางกูร ณ อยุธยา’ มาแล้ว