
Uncategorized
บ้าน แฟรงค์ ภคชนก์
เรียกว่าเป็นพิธีกรมากความสามารถของช่องวันที่หลายๆคนคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดีสำหรับ ‘แฟรงค์ ภคชนก์’ ที่เจ้าตัวนั้นเปิดใจ

ถึงชีวิตตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ตั้งแต่หนีออกจากบ้าน จะต้องนอนที่ป้ายรถเมล์ใช้ชีวิตเร่ร่อน อดมื้อกินมื้อ จนได้เข้ามาเริ่มทำงานในช่องวัน

และก็พัฒนาตัวเองจนได้มาเป็นพิธีกร จนกระทั่งหลายท่านมีความรู้สึกว่าเป็นลูกรักคุณบอย ซ้ำมาเจอกระทู้โหวตให้เป็นพิธีกรที่แย่ที่สุด

“เข้าวงการมาด้วยสมัครเล่นละครเวทีของคุณบอย ได้เลย ได้เฉยเลย โชคดีมากมายที่ได้ คนมาแคสเป็นพันได้มั้งเขาเอาโดยประมาณ 30 คน

ในเวลานั้นมีการบนด้วย ช่วงแรกเราเป้นนักแสดงในชมรมมหาวิทยาลัย ต้องการรู้ว่ามือาชีพจริงๆเขาทำกันอย่างไร พอมันเริ่มทราบเส้นทางของชีวิตตัวเองแล้ว

ก็ต้องการจะทำมันเต็มกำลัง ใช้เวลากับมันเต็มที่ ผมเป็นผู้ที่อยู่กับครอบครัวพ่อกับแม่โอ๋ตลอด ต้องการไปมองเห็นชีวิตโลกภายนอก

หนีออกมาจากบ้านแหละ วันนั้นวันเกิดครบ 20 ปี ไหว้พ่อแม่แล้วออกไป ลำบากมาก อาชีพนักแสดงเวลาเราไปแคสก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง

ไม่สามารถที่จะวางแผนการเงินข้างหน้าได้ มันมีตอนไม่มีรายได้เข้ามา ก็จะต้องออกมาจากหอพักใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ 2 เดือน

ในตอนนั้นมีละครเรื่องนึงแต่ว่ายังไม่ออนแอร์ ละครออนแอร์เราถึงจะได้ตังค์ รอตังค์จากละครเรื่องนี้อยู่ ออกมาจากหอพัก

เริ่มจากไปนอนที่ชมรมมหาวิทยาลัยก่อน นอนตามป้ายรถเมล์ เพื่อนเริ่มมีความเห็นว่าน่าสนุกก็มานอนร่วมกัน มันไม่มีชื่อเสียงด้วยในตอนนั้น

ตอนละครออนแอร์วันแรกผมยังนั่งมองที่ร้านกาแฟอยู่เลย ถามว่าเรียกว่าอดมือกินมือได้ไหม คืออดทุกมือแหละ แต่ว่ามีเพื่อนดีเพื่อนที่มานอนร่วมกัน

ก็กินร่วมกัน เป็นอยู่อย่างนี้โดยประมาณ 3 เดือน มีขายเสื้อผ้าด้วย เสื้อผ้าของเราที่เอามาจากบ้านที่ใส่ประจำนี่แหละ ซักแล้วเอาไปขายมือสอง

ในตอนนั้นเราทราบมันมีเงินรออยู่ข้างหน้า ชีวิตช่วงนี้ก็เหมือนเวิร์คชอปบทคนเร่ร่อน นี่แหละที่ไม่อยากที่จะให้พ่อแม่ทราบ เพราะว่าผมอยากมองว่ามันจะไปถึงไหน

จะผ่านวิกฤตนี้ไปอย่างไร แล้วตอนนั้นเอ็กแซกท์ผลิตรายการใหม่จำนวนมากที่เป็นเกมส์โชว์ ซิทคอม ผมได้โอกาสเป็นคนนำเชียร์ปรบมือ

ก่อนที่จะขยับไปทำหน้าที่อื่น จนถึงมาถึงการได้เป็นพิธีกร” เขายังบอกอีกว่าช่วงนี้เริ่มหันมาทำงานเบื้องหลัง เพราะว่าสนใจต้องการเรียนรู้
