หลังจากโลดแล่นอยู่ในแวดวงการบันเทิงอีกทั้งละครและก็ภาพยนตร์มายาวนานหลายทศวรรษ กระทั่งขึ้นแท่นเป็นทั้งยังผู้จัด-ผู้กำกับละคร

รวมถึงนักแสดงอาุโสมากความสามารถ สำหรับ อาตู่ นพพล โกมารชุน กระทั่งปัจจุบันเมื่อเร็วๆนี้ อาตู่ นพพล โกมารชุน ยังถูกยกย่อง

ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ประจำปี พุทธศักราช 2564 สาขาศิลปะการแสดงภาพยนตร์และก็ละคร อีกด้วย นอกจากนี้ อาตู่ นพพล โกมารชุน

ในวัย 68 ปี ปัจจุบันนี้ก็ยังคงส่งผลงานทางด้านกำกับดูแลการแสดง และก็งานแสดงอยู่ เพียงแต่ว่ามีแววจะวางแพลนชีวิตในบั้นปลายในวัยใกล้ 70

จ่อวางมือด้านงานเบื้องหลังเพื่อไปอยู่ดูแลภรรยาอย่าง ซ้อนุช ปรียานุช ปานประดับ รวมทั้งพร้อมจะไปใช้ชีวิตร่วมกัน 2 คนที่จังหวัดเชียงราย

โดย อาตู่ นพพล โกมารชุน เปิดเผยว่า “สำหรับกำกับกับการเป็นผู้จัดมีความรู้สึกว่าไม่น่าจะเกิน 3-4 ปีนี้ก็ว่าจะเริ่มถอย เพราะแรงมันเริ่มที่

จะถอยเหมือนกัน เรารู้สึกตัวเราดี เมื่อไรถึงเลข 7 ก็คงจะถอยได้แล้ว แต่ว่าการแสดงไม่หยุดแน่ๆ ไม่มีทางหยุด ยังไงก็ยังชอบการแสดง”

มีความเห็นว่าอาจะไปอยู่จังหวัดเชียงรายเป็นหลัก ถ้าหากสมมติไม่มีงานแสดงหรืออะไรก็ตาม? “ใช่ครับผม ต้องการอยู่กับธรรมชาติให้ได้มากที่สุด

อาตู่ว่าชีวิตในเมือง เป็นชีวิตที่ไม่ค่อยมีความสุขเยอะแค่ไหน เราตื่นมา เราก็มองเห็นแต่ว่าตึก มองเห็นแต่ว่ารถติด ฝุ่นควันทั้งหลายแหล่ อยู่ที่ตรงนั้นอาตู่

ก็จะมีความสุขกับสัตว์เลี้ยงต่างๆและจากนั้นก็ต้นไม้ ดอกไม้” ตอนคุณอาเจอปัญหาหนักๆในชีวิต ผู้ที่อยู่ข้างกายของคุณอาคือพี่นุช?

“ครับ พวกเราสองคนช่วยกัน เพราะว่าถ้าหากมันมีอะไรกระทบขึ้นมากับเป่าจินจง (สังกัดในความดูแลของอาตู่และก็ซ้อนุข) ก็คือกระทบทั้งสอง
แต่ว่าพี่นุชเขาเป็นผู้ที่สู้ ถ้าเกิดมิเช่นนั้นเขามาไม่ถึงที่ตรงนี้หรอก ที่เขาสู้กับการสุขภาพร่างการของพวกเขา เขาก็สู้มาเป็น

เวลานานยาวนานหลายปี เวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาเราหันหน้าเข้าพบกันก่อน คุยกันว่าเราจะแก้ปัญหาอย่างไร และก็เป็นกำลังใจให้กันและกัน

ซึ่งในตอนนี้สุขภาพอะไรต่างๆแข็งแรงขึ้นมาก จากที่เคยเดินไม่ได้อยู่ 2 ปี และก็ไปรักษากระทั่งเดินได้ในตอนนี้ขยับตัวเร็วเกินไป

ความที่เธอพลังเยอะ ไม่ค่อยจะระมัดระวังตัวเท่าไหร่ จะต้องคอยดึงๆไว้บ้าง ปัจจุบันนี้ดียิ่งขึ้นมากๆเลยครับผม”