Connect with us

Uncategorized

ชีวิตล่าสุด สุริยา เยาวสังข์

หากนึกถึงภาพยนตร์ดี ๆ ที่ยังอยู่ในความทรงจำสักเรื่องหลาย ๆ คนคงจำได้กับภาพยนตร์เรื่อง ‘ผีเสื้อและดอกไม้’ ภาพยนตร์สุดแสนคลาสสิค

กับเรื่องราวของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องออกมาต่อสู้เป็นกองทัพมด โดยเฉพาะฉากที่ต้องนั่งอยู่บนหลังรถไฟ ที่ทำให้หลายคนยังคงจดจำได้ดี

และจากภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เกิดดาวดวงใหม่เข้ามาประดับวงการในฐานะนักแสดงวัยรุ่น สำหรับ ‘ป๊อป สุริยา เยาวสังข์’ ด้วยความน่ารัก สดใส

และบทบาทที่ตราตรึงในใจของผู้ที่ได้เข้าชมทำให้เขาโด่งดังกลายเป็นที่รู้จัก และมีผลงานการแสดง และถ่ายแบบ ตามมาเรื่อย ๆ

ต่อมาจึงมีผลงานภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง และที่สร้างชื่อเสียงอีกเรื่องคือ ‘กว่าจะรู้เดียงสา’ ในปี 2530 ประกบคู่กับ ‘มาช่า วัฒนพานิช’

และตามด้วยภาพยนตร์เรื่อง ‘วงศาคณาญาติ’ ในปีเดียวกัน และเรื่อง ‘ซอสามสาย’ ในปี 2531 จากนั้นจึงได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศจีน

ก่อนที่จะกลับมาบริหารบริษัททัวร์ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว และตามด้วยการกลับเข้ามาทำงานในวงการ มีผลงานแสดงอย่างต่อเนื่อง

และปัจจุบันเจ้าตัวนั้นได้หันไปทำงานเบื้องหลังอย่างเต็มตัว โดยทำงานร่วมกับ ‘บิณฑ์ บันลือฤทธิ์’ ต่อมาได้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์หลายเรื่อง

อาทิ ‘ช้างเพื่อนแก้ว’ , ‘ปัญญาเรณู’ , ‘กรรไกร ไข่ ผ้าไหม สองบาท 50’ เป็นต้น และปัจจุบันก็มีภาพยนตร์แลพงานละครที่ผลิตออกมาเรื่อย ๆ

“ย้อนกลับไปสมัยก่อน ตอนนั้นงานเยอะมาก โชว์ตัว ถ่ายหนังสือเยอะมาก 10 กว่าเล่มต่อเดือน แทบทุกเล่ม ผมถือว่าผมแจ้งเกิดจากหนังเรื่องนี้เลย

ช่วงจังหวะที่ถ่ายหนังอยู่นั่น พอถ่ายเสร็จแล้วกลับมา ก็เริ่มมีหนังสือติดต่อเข้ามาก็ถ่ายแบบหนังสือเยอะมาก ตอนนั้นแทบจะทุกเสาร์-อาทิตย์

บางอาทิตย์นี้ถ่ายสองเล่มด้วยซ้ำ เช้าเล่ม เย็นเล่ม ถามว่าแล้วทำไมอยู่ๆถึงออกจากวงการ ผมก็ยังมีเล่นอยู่บ้างนะเป็นนักแสดงรับเชิญ แต่ละครเรื่องล่าสุด

ที่ไม่ได้รับเชิญนะ ‘นายฮ้อยทมิฬ’ แต่สาเหตุที่ผมตัดสินใจถอยจากวงการบันเทิงเพราะผมเริ่มมีความรู้สึกว่าผมชอบเบื้องหลังมานานแล้ว มันเริ่มตั้งแต่เล่นหนังแล้ว

ก็พอจากที่เล่นเรื่องนั้นเสร็จก็ก็มีความรู้สึกว่าจะเอายังไงต่อไป แต่ตอนนั้นจริง ๆ ผมก็พลาดอย่างหนึ่งเพราะว่า เราตัดเบื้องหน้าทิ้ง ทั้ง ๆ ที่มีละครอีก 3 เรื่องให้ผมเล่น

ทั้งๆที่ผมเล่นก็ได้ แต่ด้วยความที่ผมชอบเบื้องหลังมากกว่า ก็เลยปฏิเสธละครไปหลังจากนั้นก็ไม่มีละครติดต่อเข้ามาอีกเลย ก็ทำงานเบื้องหลังเต็มตัว ก็ทำกับพี่ ‘ท็อป บิณฑ์ บันลือฤทธิ์’ ”

error: Content is protected !!