Connect with us

Uncategorized

ชีวิตล่าสุด ชูษี เชิญยิ้ม

มุมมองชีวิตของตลกมีชื่อ ‘ชูษี เชิญยิ้ม’ ที่เปลี่ยนไป โดยเจ้าตัวเปิดใจว่าปัจจุบันนี้หันมารับงานละคร และต้องการมีงานมากขึ้น


เพราะรู้ว่าอาชีพขบขันก็มีอายุขัย และเปิดใจว่าหากไม่มีงานก็พร้อมไปอยู่วัด เพราะตอนนี้ซึ้ง และได้เปลี่ยนแปลงตนไปอย่างสิ้นเชิง


ไม่มีงานก็จะไปอยู่วัด รับซึ้งรสพระธรรม ที่ผ่านมาเสียเวลาชีวิต แต่ไม่สายเกินไป ขึ้นสูงได้ก็หล่นได้ ปล่อยวางแล้ว ลั่นคิดได้หลังดูแลเด็กดาวน์ซินโดรม


โต้หากินกับเด็กพิเศษ ให้อภัยให้กับทุกคนที่คิดแบบนี้ เปิดเผยเหตุอยากไปอยู่วัด เพราะได้สัมผัสกับพระ ทำจิตนิ่งขึ้น เปิดรับอะไรใหม่ๆได้มากขึ้น


“เราเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่ออะไรมากมาย พวกวัตถุอะไรต่างๆไม่เชื่อ แต่ว่าพอใช้ไปสัมผัสกับพระท่านนึงแล้วทำให้ใจเรานิ่ง มีความคิดที่ก้าวไกล


ไม่ประมาทกับชีวิต เป็นครั้งแรกที่รู้สึกแบบนี้ พอใจนิ่งขึ้น ก็เปิดรับอะไรใหม่ๆได้มาก” มาคิดได้หลังดูแล ‘น้องอ๊อด’ กลายเป็นคนที่อ่อนโยน


“พอได้มาดูแล ‘อ๊อด’ ความคิดนี้มันก็ขึ้นมาอัตโนมัติ กลายเป็นคนที่อ่อนโยนขึ้น อาจจะตามอายุด้วยแก่แล้ว จะให้ไปเหมือนเมื่อก่อนมันไม่ใช่


จำต้องเปิดใจฟังเด็กรุ่นใหม่ด้วย จำต้องยอมรับเด็กรุ่นใหม่ๆด้วย ดีสำหรับวงการ เพราะพอเเปิดใจฟังเขา เขาก็รับฟังพวกเรา มีอะไรเราก็จะเตือน จะสอน


จะสั่งน้องๆรุ่นหลังกันว่าทำยังไงให้คู่รัก พวกเราอย่าคิดแค่ว่าทำให้คนรอบข้างรักเราพอ ต้องทำให้คนทั้งประเทศรักเรา ความเสมอต้นเสมอปลายต้องมี”


รับที่ผ่านมาเสียเวลาชีวิต แม้กระนั้นไม่สายเหลือเกิน “เสียเวลาแต่ก็มองว่ามันยังไม่สายเกินไป รู้สึกว่าอันที่จริงแล้วพวกเราน่าจะเข้าวัดตั้งแต่อายุ 30 ปี นี่ 60 แล้วเพิ่งมารู้จักเข้าวัด


ถ้าเข้าเร็วกว่านี้มันคงจะดี เพราะเรื่องเหล่านี้มันต้องค่อยๆซึมซับ มันจะทำให้ตัวเรามีจิตใจที่เมตตามากกว่านี้ มองโลกในแง่ดี ไม่ตัดพ้อต่อว่าคนที่เคยมาว่า


ยินดีชีวิต ‘น้องอ๊อด’ ดีกว่าตน “ตอนนี้ชีวิตเขาดีกว่าเราอีก งานการเขาดีมาก ช่องยูทูปใครๆก็อยากให้ไปรายการ ก็พยายามดูให้เขา เอาเงินดีกว่า


เพราะครอบครัวเขาใช้เงิน บอกเลยว่าใครอยากได้ ‘อ๊อด’ ให้หัวใจบ้าง ไม่ใช่ว่าเด็กไม่ต้องกินอะไรเลย จะต้องกิน หากไม่ให้ไปจะมาโกรธไม่ได้ เพราะเราดูแลเขามา


ปั้น ‘อ๊อด’ เป็นตลกเพราะเป็นคนความจำดี ปั้นให้เป็นนักแสดง เล่นตามบทได้ แต่ว่าเขาจะสมาธิสั้น เราจะพูดจาน่ารัก ไม่มีคำหยาบคายเลย พ่อนะ หนูนะ


ไม่ต้องการปั้นเด็กแบบหยาบคาย ต้องการให้เขาน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ต้องเอาตลกมาก ให้คนดูยิ้มๆพอ” รวมทั้งยกโทษ หากคนกล่าวหาว่าตนหากินกับเด็กพิเศษ


ทดลองดูฐานะผมกับอ๊อดปัจจุบันนี้ งานทุกอย่างพ่อแม่เขารับเงินเองหมด รายการ งานละคร มีใบเสร็จหักภาษี ผมแค่รอดูงานให้เขา ผมดูแลเขาเหมือนลูก


พยายามดูแลตัวเอง เวลานี้ผมแฮปปี้ ได้คุยกับ ‘อ๊อด’ มีแต่ความสนุกสนาน ไม่เครียด ไม่อยากได้อยากอะไรแล้ว พออยู่พอกิน


ทุกวันนี้มีเงินติดบัญชีไม่เกิน 3,000 บาท ที่เหลือให้ภรรยาหมด ก็พยายาม จะได้อยู่ดูแลเขา เราจนมาก่อน พวกเราเป็นเด็กวัด เราไม่ลืม”

error: Content is protected !!