ลูกชายคนโต “เปี๊ยก โปสเตอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ “ ออกมาร้องสื่อมวลชนขอความกระจ่าง หลังถูกน้องสาวไม่ให้เจอพ่อ คาดมาจากปมหวังชิงมรดกหลายล้าน

หลังจากที่ภรรยาใหม่พ่อเสียชีวิตเมื่อปลายปี 2563 ซึ่งพ่อเป็นผู้ได้รับมรดกรวมแล้วกว่า 4 ล้านพร้อมบ้านและที่ดิน

นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงเรื่องการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของคุณพ่อ เนื่องจากตนเป็นลูกชายคนโต แต่ทำไมไม่มีสิทธิ์รับรู้อะไรเลย

โดยอยากให้น้องสาวติดต่อเข้ามาพูดคุยกัน จะได้ช่วยกันดูแลพ่อ เพราะตนเอง ก็คิดถึงพ่อมากเช่นกัน

โดยคุณกบยืนยันว่าไม่เคยหวังเรื่องผลประโยชน์ และไม่เคยกันหรือปิดบัง แต่ทางพี่ชายไม่เคยโทรมา หรือมาหาทั้ง ๆ ที่รู้ที่อยู่บ้านหมด

ที่ผ่านมายอมเป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ขอเดินหน้าต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เชื่อมั่นเวรกssมมีจริง ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น

กลายเป็นกรณีปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวหลังจากที่ นายวิษณุ นิยมศิริ หรือ เป็ด ลูกชายคนโตของ “เปี๊ยก โปสเตอร์” ผู้กำกับภาพยนตร์

ได้ออกมาร้องต่อสื่อว่าถูกน้องสาวแท้ ๆ กีดกันไม่ให้เจอพ่อ หลังน้องพาตัวพ่อไปดูแลต่อที่ จ.นครพนม ภายหลังจากที่ภรรยาใหม่พ่อเสียแล้ว

พ่อเป็นผู้ได้รับมรดกรวมแล้วกว่า 4 ล้าน พร้อมบ้านและที่ดิน โดย นายเป็ด ลูกชายคนโตของ “เปี๊ยก โปสเตอร์” เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พี่น้องไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน

พอมามีเรื่องว่าพ่อจะได้รับมรดก ก็เกิดการแบ่งฝ่ายคือ ตนเอง และน้องสาวอีก 3 คน ซึ่งตนรู้สึกว่าน้องสาว ร่วมมือกันหวังผลประโยชน์จากพ่อ

มีการปิดบังข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการรับมรดก แต่งตั้งทนาย โดยเฉพาะ “กบ น้องสาวคนเล็ก” ที่มาพาตัวพ่อจากบ้านที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ไปอยู่ด้วยที่จ.นครพนม โดยไม่แจ้งที่อยู่ชัดเจน และไม่ให้ติดต่อกับคุณพ่อตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังทราบว่ามีการพาตัวพ่อไปรับมรดกเป็นเงินกว่า 2.5 ล้านไปแล้วในรอบแรก

และมีการประกาศขายบ้านพ่อที่ อ.ปากช่องด้วย ซึ่งตนก็กังวลว่าน้องสาวจะเอาเงินพ่อไปใช้ในทางที่ไม่ชอบหรือไม่ เพราะก่อนหน้าจะมีปัญหาเรื่องนี้

น้องสาวเคยบ่นกับตนว่าไม่มีเงิน ทำธุรกิจอะไรก็เจ๊ง รวมถึงเป็นห่วงความปลอดภัยของพ่อ เพราะก็อายุมากกว่า 90 ปีแล้ว ไม่รู้ว่าไปอยู่แบบเต็มใจหรือไม่

หรือจะเกิดปัญหาเรื่องเอกสารอะไรหรือเปล่า โดยอยากให้น้องสาวติดต่อเข้ามาพูดคุยว่าจะดำเนินการกันอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมาย จะได้ช่วยกันดูแลพ่อ และตนก็คิดถึงพ่อมาก